ยอดหญิงชิงโอลิมปิก ชื่อภาษาญี่ปุ่น 燃えろアタック (ชื่อภาษาอังกฤษ Moero Attack) ภาพยนตร์ซีรี่ส์ญี่ปุ่นยอดนิยมแห่งปี 1979 เข้าฉายในเมืองไทยทาง ททบ.5 ในชื่อว่า "ยอดหญิงชิงโอลิมปิค" จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวนักวอลเล่ย์บอลไทย ทั้งแท้และเทียม เอาเป็นแบบอย่างมาจนถึงทุกวันนี้

หลังจากทีมสาวญี่ปุ่นเอาชนะสหภาพโซเวียตในกีฬาโอลิมปิค1976 ที่แคนาดา คว้าเหรียญทอง วอลเลย์บอลทีมหญิงเป็นสมัยที่ 2 และเจ้าภาพครั้งต่อไปในกีฬาโอลิมปิคปี 1980 นั่นก็คือทีมสหภาพโซเวียต จึงเป็นงานหนักของญี่ปุ่นที่จะป้องกันแชมป์ในถิ่นของสหภาพโซเวียต ประเทศมหาอำนาจวอลเลย์บอลทั้งชายและหญิงของโลกในสมัยนั้น 

ทางสถานีโทรทัศน์อาซาฮีแห่งประเทศญี่ปุ่น ผู้ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกีฬาโอลิมปิคจึงเล็งเห็นความสำคัญและเป็นกำลังใจให้กับเหล่านักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่น ไม่เฉพาะแต่วอลเลย์บอลเท่านั้น ด้วยการสร้างหนังซีรีส์เรื่องนี้ขึ้นมาและที่ต้องสร้างซีรี่ส์เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของวอลเลย์บอล เพราะวอลเลย์บอลสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ชาวญี่ปุ่นมากที่สุดนั่นเอง โดย Moero Attack หรือมีชื่อในภาษาไทยว่า "ยอดหญิงชิงโอลิมปิค" เริ่มออกอากาศครั้งแรกในเดือนมกราคม ปี 1979 ซึ่งเหลืออีกเพียงปีเดียวเท่านั้น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 1980 ก็จะเปิดฉากขึ้น

แต่ทว่าเกิดเหตุการณ์ทางการเมือง ซึ่งสมัยนั้นเป็นยุคสงครามเย็นระหว่างค่ายโลกเสรี นำโดยสหรัฐอเมริกากับค่ายโลกคอมมิวนิสต์ นำโดยสหภาพโซเวียต ในเดือนธันวาคม 1979 สหภาพโซเวียตบุกอัฟกานิสถาน เพื่อผนวกไว้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน สหรัฐอเมริกาจึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่งลามไปถึงเรื่องในวงการกีฬา ด้วยการประท้วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 1980 ที่สหภาพโซเวียตเป็นเจ้าภาพ โดยการประกาศคว่ำบาตรไม่เข้าร่วมการแข่งขัน(ซะงั้น) ประเทศต่างๆ ในค่ายโลกเสรี รวมทั้งไทยก็เลยพลอยต้องคว่ำบาตรตามไปด้วย จึงเป็นอันว่า ทีมวอลเลย์บอลหญิงญี่ปุ่นหมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์ไปโดยปริยาย

เรื่องย่อ โคทาโร่ โคชิกะ เกษตรกรโคนมชาวฮอกไกโดมีความใฝ่ฝันอยากให้ จุง โคชิกะ ลูกสาวของตนติดทีมชาติวอลเลย์บอลให้ได้ จึงได้ให้จุงฝึกซ้อมออกกำลังกายทุกวัน ตั้งแต่ยังเด็ก จนโตเป็นสาวแรกรุ่นอายุ 14 ปี จุงทำตามคำสั่งของพ่อเสมอ ทั้งวิ่งทั้งกระโดดข้ามรั้วไม้และกระโดดสูงตบลูกบอล เป็นต้น

วันหนึ่งโคทาโร่พ่อของเธอบอกให้จุงต้องไปเรียนหนังสือที่กรุงโตเกียว ทำเอาจุงตั้งตัวไม่ทัน โดยจะมีคนมารับที่สถานีรถไฟกรุงโตเกียว และพักอาศัยอยู่ด้วยคือ โคยิ โคชิกะ อาชายของเธอเอง จุงจึงจำต้องไปเรียนที่กรุงโตเกียวตามคำสั่งของพ่อ

เมื่อจุงมาถึงกรุงโตเกียว มีชายคนหนึ่งมารอเธอคือ ไดโซ ฮายามิ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมวอลเล่ย์บอลของโรงเรียนมัธยมชิราฟูจิ เขาพาจุงไปที่โรงเรียน จุงจึงได้รู้จักโค้ชไดซุเกะ ลูกชายของเขาและเพื่อนๆ รุ่นพี่นักวอลเล่ย์บอลทั้งหมด จุงประหลาดใจว่าทำไมถึงให้มาที่นี่ ไดโซจึงได้บอกความจริงว่า นี่เป็นความต้องการพ่อของจุงเองที่ต้องการให้เธอมาเป็นนักวอลเล่ย์บอลในโรงเรียนแห่งนี้ แต่จุงปฏิเสธ เธอต้องการเรียนหนังสืออย่างเดียวเท่านั้น แต่จนแล้วจนรอดจุงก็ต้องกลายเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลของโรงเรียนจนได้

เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ทางโรงเรียนจึงให้มีการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องกับทีมโรงเรียนมัธยม เมะชีโระ โค้ชไดสุเกะจึงจับเอาจุงเป็นตัวจริงทันที แต่จุงยังอ่อนหัดอยู่มาก จึงถูกทีมคู่แข่งถลุงเละเทะไม่เป็นท่า ทำให้เพื่อนร่วมทีมและเพื่อนร่วมห้องไม่พอใจจุงมากที่เป็นตัวถ่วงของทีม และเป็นต้นเหตุทำให้ทีมพ่ายแพ้ จึงกลั่นแกล้งจุงต่างๆนาๆ

จุงทนไม่ไหวหนีกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ฮอกไกโด ในที่สุดเรื่องทุกอย่างที่เป็นปริศนาสำหรับจุงก็คลี่คลายขึ้น เมื่อพ่อของเธอบอกความจริงกับจุงต่อหน้าสุสานแม่ว่า แม่ยังมีชีวิตอยู่ ชื่อว่า จุงโกะ เป็นอดีตนักวอลเล่ย์บอลมือตบมือหนึ่งของโรงเรียนชิราฟูจิ นำทีมคว้าแชมป์ระดับโรงเรียนมัธยมของประเทศ จึงมีชื่อเสียงในฐานะมือตบดาวรุ่งดวงใหม่ของประเทศญี่ปุ่น

ความใฝ่ฝันของจุงโกะ ก็คือ การได้ติดทีมชาติไปแข่งกีฬาโอลิมปิคที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพเองในอีกสองปีข้าง หน้าให้ได้ จึงฝึกซ้อมอย่างหนัก โดยมี โค้ชไดโซ ฮายามิ คอยดูแล ควบคุม แต่โชคร้ายจุงโกะพลาดท่า เส้นเอ็นร้อยหวายที่ขาขาด ทุกอย่างที่ใฝ่ฝันไว้จึงเป็นอันจบสิ้นลง

จุงโกะ ต้องการรักษาแผลใจจึงปลีกตัวเข้าไปอาศัยอยู่ตามป่าเขาเพียงลำพัง แต่เกิดอุบัติเหตุทำให้เจ็บปวดที่ขาข้างเดิมอีก จนถึงขั้นเดินไม่ได้ แต่ก็มีชายคนหนึ่ง (โคทาโร่) บังเอิญผ่านมาพบเข้าจึงให้การช่วยเหลือ ต่อจากนั้นความใกล้ชิดก็ทำให้เกิดเป็นความรัก ทั้งสองจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน

ช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิตที่กรุงโตเกียว จุงอายุ 7 เดือน ครอบครัวสามพ่อแม่ลูกได้ชมการแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิง จุงโกะ เอ่ยกับจุงว่า ลูกจะต้องติดทีมชาติไปโอลิมปิคแทนแม่ให้ได้นะ ทำให้โคท่าโร่จำคำพูดนั้นได้ไม่ลืม จึงเคี่ยวเข็ญจุง ให้เริ่มฝึกซ้อมตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อสานต่อความฝันของจุงโกะผู้เป็นแม่ให้เป็นความจริงให้ได้

ต่อมา จุงโกะมีปัญหาเรื่องประสาทตา เมื่อถูกความหนาวเย็นบนเกาะฮอกไกโด ทำให้ตาเจ็บ หมอจึงสั่งจุงโกะห้ามทำงานหนัก หรือไม่ก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นที่อากาศอบอุ่นกว่านี้ แต่จุงโกะยังคงอยู่บนเกาะร่วมกับสามี เพื่อเป็นแม่บ้านที่ดี ทำให้ปู่ของจุงทนไม่ไหว เพราะไม่อยากให้จุงโกะต้องสูญเสียดวงตาทั้งสองข้างไป จึงทำทีขับไล่ไสส่งจุงโกะออกไปจากบ้าน โดยอ้างเหตุผลว่า เธอเป็นแม่บ้านที่ไม่ได้เรื่อง และไม่คู่ควรจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป

โคทาโร่ให้สัญญากับจุงว่า ถ้าจุงสามารถก้าวไปติดทีมชาติญี่ปุ่นในฐานะนักวอลเล่ย์บอลได้ จะช่วยให้จุงได้พบกับแม่ เมื่อจุงทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว จึงตัดสินใจเดินทางกลับไปยังกรุงโตเกียวอีกครั้ง เพื่อช่วยสานต่อความฝันของแม่ให้เป็นจริงและการจะได้พบกับแม่ของเธอ

จุงเริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ทำให้พัฒนาฝีมือการเล่นได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นมือตบตัวหลักสำคัญของทีมโรงเรียนชิราฟูจิ จุงคิดค้นท่าไม้ตาย ทั้งท่าเสิร์ฟและท่าตบ นำทีมชนะเลิศได้แชมป์ระดับโรงเรียนมัธยมของประเทศได้สำเร็จเหมือนกับแม่ของเธอที่ เคยทำเอาไว้ ซึ่งในวันนั้น จุงโกะ ก็ได้เข้ามาชมการแข่งขันด้วย เพื่อนร่วมทีมต่างดีใจสุดขีด จุงโกะ จึงกลายเป็นขวัญใจนักเรียนของโรงเรียนชิราฟูจิและผู้เข้าชมการแข่งขันที่ชื่นชอบในฝีมือการเล่นของเธอ

จุงยังไม่หยุดการพัฒนาฝีมือเพียงเท่านี้ เธอยังมุ่งมั่นต่อไป เพื่อติดทีมชาติไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่สหภาพโซเวียต ในที่สุดความฝันของจุง ความฝันของจุงโกะผู้เป็นแม่ และความฝันของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับจุงก็เป็นจริง จุงติดทีมชาติญี่ปุ่นได้ไปโอลิมปิค พร้อมกับได้พบกับแม่ของเธอ...